ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยภาวะราคาข้าวตลาดโลกด้วยข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 พบว่า ราคาข้าวขาว 5% ของ 3 ประเทศ ได้แก่เวียดนาม ไทย และปากีสถาน อยู่ที่ 663-667 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน, 640 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และ 598-602 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ตามลำดับ จะเห็นได้ว่า ราคาข้าวเวียดนามมีราคาสูงกว่าราคาข้าวไทยไปแล้ว โดยมีราคามากกว่าเกือบ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หรือสูงกว่า 4%
สอดรับกับราคาข้าวขาว 25% ของเวียดนาม พบว่ามีราคาระหว่าง 643-647 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ซึ่งสูงกว่าราคาข้าวขาว 25% ของไทย มีราคา 608 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน นั่นหมายถึงได้ราคาดีกว่าไทยถึงเกือบ 40 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน หรือสูงกว่า 6.4% ที่น่าสนใจ คือ แนวโน้มของราคาข้าวหอมมะลิเวียดนามมีราคาเข้าใกล้ข้าวหอมมะลิไทย โดยราคาข้าวหอมมะลิเวียดนามเคลื่อนไหวระหว่าง 748-752 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน มีส่วนต่างจากข้าวหอมมะลิไทย 106-110 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน เมื่อเทียบกับราคาข้าวหอมมะลิไทยที่ 858 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน
ปัจจัยที่ทำให้เวียดนามขายข้าวมีราคาที่ดีกว่าไทย เริ่มมีสัญญาณมาตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์ที่รัฐบาลอินเดียประกาศมาตรการห้ามส่งออกข้าวแทบทุกชนิดเมื่อกลางปีนี้เป็นต้นมา ทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงทำสถิติมากที่สุดในรอบ 15 ปี โดยราคาข้าวในตลาดโลกในเดือนสิงหาคมปีนี้ ยังคงทำสถิติสูงในรอบ 15 ปี ทำให้ผู้ส่งออกเวียดนามมีรายได้เพิ่มขึ้นระหว่าง 15-40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 525-1,400 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบจากราคาข้าวในช่วงก่อนหน้าที่รัฐบาลอินเดียประกาศใช้มาตรการห้ามส่งออกข้าวแทบทุกชนิด
โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2023 ผ่านมา กลุ่มผู้ส่งออกข้าวในประเทศเวียดนาม ได้กลับมาเสนอซื้อข้าวในตลาดโลกอีกครั้งในปริมาณ 500,000 ตันในราคาที่ปรับสูงขึ้นครั้งใหม่จนกลายเป็นสถิติราคาข้าวแพงสูงสุดในรอบ 15 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ความเคลื่อนไหวของผู้ส่งออกในประเทศเวียดนามดังกล่าว กลายเป็นดีลการเสนอซื้อราคาแพงเป็นประเทศแรกหลังจากรัฐบาลอินเดียประกาศใช้มาตรการห้ามส่งออกข้าวแทบทุกชนิดออกสู่ตลาดโลกเมื่อเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา
ด้านนายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ยอมรับว่า เวียดนามมีความตื่นตัวในการมองตลาดราคาข้าวเป็นโอกาสในการเรียกราคาสูงได้ พบว่า เวียดนามสั่งซื้อข้าวสูงกว่าที่ผลิตได้จริงในประเทศ โดยสั่งซื้อข้าวจากประเทศไทย ส่งไปให้ลูกค้ารายใหญ่ เช่น อินโดนีเซีย นอกจากนี้ เวียดนามมีข้าวสายพันธุ์ใหม่ที่ครอบคลุมหลายตลาดและความต้องการมากขึ้น เช่น ข้าวนุ่มเวียดนาม ที่สร้างยอดส่งออกไปประเทศฟิลิปปินส์มากถึง 3 ล้านตัน ในทางตรงกันข้าม ฟิลิปปินส์ซื้อข้าวจากไทยเพียง 100,000 ตัน นอกจากนี้ เวียดนามผลิตข้าวหอมไม่ไวแสงที่มีคุณภาพดีกว่าข้าวประเภทเดียวกันของไทย ที่สำคัญ เสนอขายราคาถูกกว่าประเทศไทย
ดังนั้น ปี 2023 นี้ จึงเป็นปีแรกที่ราคาข้าวประเทศเวียดนามมีราคาสูงกว่าประเทศไทย ทั้งนี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยสถานการณ์การส่งออกข้าวของประเทศผู้ส่งออกข้าว 5 อันดับแรกของโลก ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคม 2023 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2022 พบว่า อันดับ 1 อินเดีย รักษาความเป็นประเทศส่งออกข้าวมากที่สุดของโลก ส่งออกรวม 16 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม กลับเป็นปริมาณที่ลดลง 13.6% อันดับ 2 เวียดนามส่งออกข้าวปริมาณ 7.05 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15.9% อันดับ 3 ประเทศไทย ส่งออกข้าวรวม 6.92 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 11.4% อันดับ 4 ปากีสถาน ส่งออกข้าว 2.24 ล้านตัน แต่กลับลดลง 34.1% และอันดับ 5 สหรัฐอเมริกามียอดส่งออกข้าว 1.69 ล้านตัน กลับลดลง 11.1%